ในปี 2568 ทุเรียนยังคงครองตำแหน่ง “ราชาแห่งผลไม้” และเป็นที่ต้องการในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีนที่ยังมีความต้องการทุเรียนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมทุเรียน แนวโน้มตลาดทุเรียนปี 2568 ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะเพิ่มรายได้และสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจ
ตลาดจีน: จีนยังคงเป็นผู้นำเข้าทุเรียนไทยรายใหญ่ที่สุด ความนิยมในรสชาติและคุณภาพของทุเรียนไทยทำให้มีการคาดการณ์ว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 10-15% ในปี 2568
ตลาดใหม่: นอกเหนือจากจีน ตลาดในตะวันออกกลางและยุโรปเริ่มสนใจทุเรียนมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่มองหาผลไม้แปลกใหม่และมีเอกลักษณ์
ทุเรียนวิถีธรรมชาติ: แนวโน้มการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพยังคงเติบโต การปลูกทุเรียนวิถีธรรมชาติ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้
แปรรูปทุเรียน: ผลิตภัณฑ์จากทุเรียน เช่น ทุเรียนทอด ทุเรียนแช่แข็ง และไอศกรีมทุเรียน กำลังได้รับความนิยมในตลาดต่างประเทศ การแปรรูปช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิต
ปัญหาสภาพอากาศ: การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิต การจัดการสวนทุเรียนอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ
การแข่งขันในตลาด: แม้ว่าทุเรียนไทยจะมีจุดแข็งด้านรสชาติและคุณภาพ แต่การแข่งขันกับทุเรียนจากประเทศอื่น เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ก็กำลังเพิ่มขึ้น เกษตรกรควรเน้นการสร้างแบรนด์และเพิ่มความแตกต่างของผลิตภัณฑ์
สวนทุเรียนในประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดจันทบุรี ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การชิมทุเรียนสดจากสวน การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสามารถเพิ่มรายได้และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าโดยตรง
ปี 2568 เป็นปีที่ทุเรียนยังคงเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย แนวโน้มตลาดชี้ให้เห็นถึงโอกาสมากมายสำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่พร้อมปรับตัวและพัฒนาคุณภาพของผลผลิต สวนทุเรียนป้าอิ๊ดจันทบุรีพร้อมเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทุเรียนไทยสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
หากคุณกำลังมองหาทุเรียนคุณภาพเยี่ยม หรืออยากสัมผัสประสบการณ์การชิมทุเรียนสดจากสวน สามารถติดต่อเราได้ที่ www.durianchan.com หรือเยี่ยมชมสวนทุเรียนป้าอิ๊ดจันทบุรีด้วยตัวเอง เราพร้อมต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่นและทุเรียนรสชาติเยี่ยมที่ดีที่สุด!